นิทานเรื่องหนูเหมียวยอดกตัญญู
นิทานเรื่อง หนูเหมียวยอดกตัญญู
ค่านิยม 12 ประการ
ข้อ 3 กตัญญพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
นิทานเรื่อง หนูเหมียวยอดกตัญญู
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีครอบครัวๆหนึ่ง อาศัยอยู่ด้วยกันสามคน พ่อกับแม่มีอาชีพทำไร่ทำสวน ปลูกผักขายเพื่อเลี้ยงครอบครัว ทุกวันหนูเหมียวจะช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ เมื่อหนูเหมียวกลับมาจากโรงเรียนเธอก็จะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตรงไปหาแม่ของเขาที่แปลงผัก
หนูเหมียว : แม่จ๋า หนูแลับมาแล้ว มีะไรให้หนูช่วยไหมคะ
แม่ : มีจ้า ถ้างั้นหนูเหมียวมารดน้ำผักให้แม่นะจ๊ะ
หนูเหมียว : ค่ะ ได้ค่ะ
แม่ : เก่งมากจร้าลูก
และในทุกๆวันหนูเหมียวจะช่วยแม่รดน้ำผักและเก็บผักเพื่อเตรียมที่จะเอาไปขายในตลาดของวันรุ่งขึ้น หนูเหมียวจะทำแบบนี้ทุกวันเพื่อช่วยแม่ของเธอ มีอยู่วันหนึ่งแม่ของหนูเหมียวไม่สบายและตื่นสายผิดปกติ หนูเหมียวจึงเข้าไปถามแม่
หนูเหมียว : แม่คะ แม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมแม่จึงตื่นสายจังเลยคะ
แม่ : แม่รู้สึกปวดหัวเหมือนจะไม่สบายเลยลูก
หนูเหมียว : งั้นหนูเอาผักไปขายให้แม่ที่ตลาดเองนะคะ
หนูเหมียวจึงเอาผักที่เตรียมไว้ไปขายที่ตลาดแทนแม่ เมื่อหนูเหมียวขายผักเสร็จก็รีบกลับบ้านเพื่อไปดูแลแม่
หนูเหมียว : แม่จ๋า หนูกลับมาแล้วค่ะ
แม่ : กลับมาแล้วเหรอลูก เป็นไงจ๊ะหนูเหนื่อยไหมลูก
หนูเหมียว : ไม่เหนื่อยหรอกค่ะแม่ หนูทำได้ค่ะ
แม่ : แม่สงสารหนูจังเลย กลับจากตลาดแล้วยังต้องมาดูแลแม่ที่ไม่สบายอีก
หนูเหมียว : หนูจะดูแลแม่จนกว่าแม่จะหายดี เพราะตั้งแต่เล็กจนโตแม่คอยเลี้ยงดูหนูเป็นอย่างดี มาวัน นี้แม่ไม่สบายหนูก็ต้องดูแลแม่เพื่อตอบแทนพระคุณของแม่คะ
หนูเหมียวได้ดูแลแม่ของเขาอยู่ตลอดเวลา คอยเช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยาให้แม่ โดยที่ไม่บ่นสักคำถึงแม้หนูเหมียวจะเหนื่อยเพียงใดก็ตาม จนกระทั่งแม่ของหนูเหมียวหายดี หนูเหมียวดีใจมากที่แม่ของเขาหายเป็นปกติ และครอบครัวนี้ก็อยู่กันอย่างมีความสุขตลอดมา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความกตัญญูต่อบิดา มารดา ผู้มีพระคุณจะทำให้เรามีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
นางกัลยา วงษ์ชัย
571111321120
ข้อ 3 กตัญญพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
นิทานเรื่อง หนูเหมียวยอดกตัญญู
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีครอบครัวๆหนึ่ง อาศัยอยู่ด้วยกันสามคน พ่อกับแม่มีอาชีพทำไร่ทำสวน ปลูกผักขายเพื่อเลี้ยงครอบครัว ทุกวันหนูเหมียวจะช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ เมื่อหนูเหมียวกลับมาจากโรงเรียนเธอก็จะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตรงไปหาแม่ของเขาที่แปลงผัก
หนูเหมียว : แม่จ๋า หนูแลับมาแล้ว มีะไรให้หนูช่วยไหมคะ
แม่ : มีจ้า ถ้างั้นหนูเหมียวมารดน้ำผักให้แม่นะจ๊ะ
หนูเหมียว : ค่ะ ได้ค่ะ
แม่ : เก่งมากจร้าลูก
และในทุกๆวันหนูเหมียวจะช่วยแม่รดน้ำผักและเก็บผักเพื่อเตรียมที่จะเอาไปขายในตลาดของวันรุ่งขึ้น หนูเหมียวจะทำแบบนี้ทุกวันเพื่อช่วยแม่ของเธอ มีอยู่วันหนึ่งแม่ของหนูเหมียวไม่สบายและตื่นสายผิดปกติ หนูเหมียวจึงเข้าไปถามแม่
หนูเหมียว : แม่คะ แม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมแม่จึงตื่นสายจังเลยคะ
แม่ : แม่รู้สึกปวดหัวเหมือนจะไม่สบายเลยลูก
หนูเหมียว : งั้นหนูเอาผักไปขายให้แม่ที่ตลาดเองนะคะ
หนูเหมียวจึงเอาผักที่เตรียมไว้ไปขายที่ตลาดแทนแม่ เมื่อหนูเหมียวขายผักเสร็จก็รีบกลับบ้านเพื่อไปดูแลแม่
หนูเหมียว : แม่จ๋า หนูกลับมาแล้วค่ะ
แม่ : กลับมาแล้วเหรอลูก เป็นไงจ๊ะหนูเหนื่อยไหมลูก
หนูเหมียว : ไม่เหนื่อยหรอกค่ะแม่ หนูทำได้ค่ะ
แม่ : แม่สงสารหนูจังเลย กลับจากตลาดแล้วยังต้องมาดูแลแม่ที่ไม่สบายอีก
หนูเหมียว : หนูจะดูแลแม่จนกว่าแม่จะหายดี เพราะตั้งแต่เล็กจนโตแม่คอยเลี้ยงดูหนูเป็นอย่างดี มาวัน นี้แม่ไม่สบายหนูก็ต้องดูแลแม่เพื่อตอบแทนพระคุณของแม่คะ
หนูเหมียวได้ดูแลแม่ของเขาอยู่ตลอดเวลา คอยเช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยาให้แม่ โดยที่ไม่บ่นสักคำถึงแม้หนูเหมียวจะเหนื่อยเพียงใดก็ตาม จนกระทั่งแม่ของหนูเหมียวหายดี หนูเหมียวดีใจมากที่แม่ของเขาหายเป็นปกติ และครอบครัวนี้ก็อยู่กันอย่างมีความสุขตลอดมา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความกตัญญูต่อบิดา มารดา ผู้มีพระคุณจะทำให้เรามีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
นางกัลยา วงษ์ชัย
571111321120