VDO เล่านิทาน ครั้งที่ 1
VDO เล่านิทาน ครั้งที่ 2
บันทึกสะท้อนการเล่านิทาน
เทคนิคการเล่านิทาน : บุคลิกท่าทางในการนั่ง การจับหนังสือนิทาน โดยก่อนการเล่านิทานครูได้จัดบรรยากาศในห้องเรียน จัดเตรียมสถานที่ จัดที่นั่งสำหรับเด็ก จัดที่นั่งสำหรับครูให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม และครูถือหนังสือนิทานหันออกไปหาเด็กๆ และอยู่ในระดับที่เด็กๆ ทุกคนสามารถมองเห็นได้ การเล่านิทาน พยายามเล่าให้เป็นไปตามธรรมชาติง่ายๆ พยายามกวาดสายตาดูเด็กๆ ให้ได้ทั่วทุกคน โดยนำเทคนิคการเล่านิทานที่ได้ทำการศึกษาข้อมูลมาใช้ในการเล่านิทาน ได้แก่ ทำความเข้าใจกับเนื้อเรื่องนิทานที่จะเล่าก่อน การเลือกใช้คำง่ายๆ การเรียกร้องความสนใจจากเด็ก พยายามเป็นกันเองกับเด็ก การใช้บทสนทนา ใช้เวลาในการเล่านิทานไม่มากเกินไป แต่ก็ไม่สั้นเกินไปจนเด็กไม่เข้าใจ
ปัญหาที่พบ : การเล่านิทานในช่วงแรกๆ ครูอาจจะมีลักษณะท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ ใช้คำที่ยากเกินไป ทำให้เด็กๆ ไม่เข้าใจ
วิธีการแก้ปัญหา : เมื่อได้พยายามฝึกทักษะการเล่านิทานบ่อยๆ และนำเทคนิคการเล่านิทานมาใช้ ทำให้ท่าทางในการเล่านิทานเป็นธรรมชาติมากขึ้น รู้ว่าคำไหนที่ใช้แล้วเด็กๆ เข้าใจได้ ได้ฝึกการใช้เสียงหนักเบา เรียกร้องความสนใจจากเด็ก ดังนั้นการฝึกฝนบ่อยๆ ทำให้ครูมีทักษะในการเล่านิทานดีขึ้น
ปัญหาที่พบ : การเล่านิทานในช่วงแรกๆ ครูอาจจะมีลักษณะท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ ใช้คำที่ยากเกินไป ทำให้เด็กๆ ไม่เข้าใจ
วิธีการแก้ปัญหา : เมื่อได้พยายามฝึกทักษะการเล่านิทานบ่อยๆ และนำเทคนิคการเล่านิทานมาใช้ ทำให้ท่าทางในการเล่านิทานเป็นธรรมชาติมากขึ้น รู้ว่าคำไหนที่ใช้แล้วเด็กๆ เข้าใจได้ ได้ฝึกการใช้เสียงหนักเบา เรียกร้องความสนใจจากเด็ก ดังนั้นการฝึกฝนบ่อยๆ ทำให้ครูมีทักษะในการเล่านิทานดีขึ้น
ถอดบทเรียนจากการเล่านิทาน ครั้งที่ 1
1. สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ จากการพัฒนานิทานคุณธรรมจริยธรรม การทำใบงาน และนำไปทดลองใช้ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
- เด็กเกิดประสบการณ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมพื้นฐาน ด้านความมีระเบียบวินัย จากการฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม
- เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็น และสนใจฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม
- เด็กเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ด้วยนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมและสามารถวาดภาพตามจินตนาการของตนเองได้
- เด็กเกิดทักษะกระบวนการคิด สามารถวิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากนิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และสามารถแสดงความคิดเห็น ตอบคำถาม และวาดภาพสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้
2. ผลที่ได้รับจากการพัฒนานิทานคุณธรรมจริยธรรม การทำใบงาน และนำไปทดลองใช้ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
- เด็กสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์การเดิม และสามารถแสดงความคิดเห็น และเปรียบเทียบเหตุการณ์ ว่าสิ่งใดควรทำหรือสิ่งใดไม่ควรทำ ซึ่งมากกว่าที่ครูคาดหวังไว้
- เด็กมีความอยากรู้อยากเห็น และสนใจฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมที่ครูเล่าตามที่คาดหวังไว้
- เด็กมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถวาดภาพตามจินตนาการของตนเองได้ ตามที่คาดหวังไว้
- เด็กส่วนใหญ่สามารถแสดงความคิดเห็น ตอบคำถาม และวาดภาพสื่อสาร ให้ครูเข้าใจได้ แต่ก็มีบางคนที่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น และวาดภาพไม่สัมพันธ์กับเนื้อหา
3. สาเหตุที่ทำให้เกิดความต่างกันระหว่าง สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ กับ ผลที่ได้รับ :
เนื่องจากเด็กที่ฟังนิทานมีอายุแตกต่างกัน อยู่ในช่วงอายุ 4-6 ขวบ และมีจำนวนมากถึง 24 คน ครูคาดหวังว่าเด็กจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้จากการฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมแล้วจะสามารถแสดงความคิดเห็น ตอบคำถาม วาดภาพสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้ เมื่อเล่านิทานจบ ครูแจกใบกิจกรรม ให้เด็กวาดภาพระบายสีและอธิบายภาพ เด็กที่มีอายุ 5-6 ขวบ สามารถวาดภาพระบายสีและอธิบายภาพได้สัมพันธ์กับเนื้อหา แต่เด็กอายุ ต่ำกว่า 5 ขวบ สามารถวาดภาพระบายสีได้ แต่อธิบายภาพไม่สัมพันธ์กับเนื้อหา
4. บทเรียนที่ได้รับสิ่งที่เรียนรู้จากสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างที่พบ การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน วิธีการเติมช่องว่างจากสิ่งที่คาดว่าจะได้รับกับผลที่ได้รับ
- บทเรียนที่ได้รับสิ่งที่ได้เรียนรู้จากสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างที่พบ คือ ช่วงอายุของเด็กที่แตกต่างกัน มีความพร้อมในการรับรู้เรื่องราวที่แตกต่างกัน
- การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ครูจะต้องแนะนำการทำงานให้เด็กอย่างใกล้ชิด และพยายามใช้คำ ง่ายๆ ในการสื่อสารให้เด็กๆ เข้าใจ
- วิธีการเติมช่องว่างจากสิ่งที่คาดว่าจะได้รับกับผลที่ได้รับ ครู ควรจัดเด็กเป็นกลุ่มๆ ให้มีจำนวนน้อยลง โดยแยกเป็นช่วงอายุ และทำความเข้าใจกับเนื้อหานิทานและใช้ภาษาง่ายๆ ที่เด็กเข้าใจ และควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้บ่อยขึ้น
5. จากกิจกรรมการพัฒนานิทานคุณธรรม จริยธรรม ครูปฐมวัย ต้องสื่อสารกับตนเอง เพื่อศึกษาข้อมูลสำหรับใช้สร้างนิทาน ได้แก่ ข้อมูลพฤติกรรมเด็ก ข้อมูลนิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและข้อมูลเทคนิคการเล่านิทาน สื่อสารกับเพื่อนเพื่อพัฒนานิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม และวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ร่วมกัน สื่อสารกับเด็กเพื่อส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้กับเด็กด้วยการใช้นิทาน และสื่อสารกับผู้ปกครองเพื่อให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และทราบข้อมูล/ผลการจัดกิจกรรม
- เด็กเกิดประสบการณ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมพื้นฐาน ด้านความมีระเบียบวินัย จากการฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม
- เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็น และสนใจฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม
- เด็กเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ด้วยนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมและสามารถวาดภาพตามจินตนาการของตนเองได้
- เด็กเกิดทักษะกระบวนการคิด สามารถวิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากนิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และสามารถแสดงความคิดเห็น ตอบคำถาม และวาดภาพสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้
2. ผลที่ได้รับจากการพัฒนานิทานคุณธรรมจริยธรรม การทำใบงาน และนำไปทดลองใช้ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
- เด็กสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์การเดิม และสามารถแสดงความคิดเห็น และเปรียบเทียบเหตุการณ์ ว่าสิ่งใดควรทำหรือสิ่งใดไม่ควรทำ ซึ่งมากกว่าที่ครูคาดหวังไว้
- เด็กมีความอยากรู้อยากเห็น และสนใจฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมที่ครูเล่าตามที่คาดหวังไว้
- เด็กมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถวาดภาพตามจินตนาการของตนเองได้ ตามที่คาดหวังไว้
- เด็กส่วนใหญ่สามารถแสดงความคิดเห็น ตอบคำถาม และวาดภาพสื่อสาร ให้ครูเข้าใจได้ แต่ก็มีบางคนที่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น และวาดภาพไม่สัมพันธ์กับเนื้อหา
3. สาเหตุที่ทำให้เกิดความต่างกันระหว่าง สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ กับ ผลที่ได้รับ :
เนื่องจากเด็กที่ฟังนิทานมีอายุแตกต่างกัน อยู่ในช่วงอายุ 4-6 ขวบ และมีจำนวนมากถึง 24 คน ครูคาดหวังว่าเด็กจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้จากการฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมแล้วจะสามารถแสดงความคิดเห็น ตอบคำถาม วาดภาพสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้ เมื่อเล่านิทานจบ ครูแจกใบกิจกรรม ให้เด็กวาดภาพระบายสีและอธิบายภาพ เด็กที่มีอายุ 5-6 ขวบ สามารถวาดภาพระบายสีและอธิบายภาพได้สัมพันธ์กับเนื้อหา แต่เด็กอายุ ต่ำกว่า 5 ขวบ สามารถวาดภาพระบายสีได้ แต่อธิบายภาพไม่สัมพันธ์กับเนื้อหา
4. บทเรียนที่ได้รับสิ่งที่เรียนรู้จากสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างที่พบ การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน วิธีการเติมช่องว่างจากสิ่งที่คาดว่าจะได้รับกับผลที่ได้รับ
- บทเรียนที่ได้รับสิ่งที่ได้เรียนรู้จากสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างที่พบ คือ ช่วงอายุของเด็กที่แตกต่างกัน มีความพร้อมในการรับรู้เรื่องราวที่แตกต่างกัน
- การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ครูจะต้องแนะนำการทำงานให้เด็กอย่างใกล้ชิด และพยายามใช้คำ ง่ายๆ ในการสื่อสารให้เด็กๆ เข้าใจ
- วิธีการเติมช่องว่างจากสิ่งที่คาดว่าจะได้รับกับผลที่ได้รับ ครู ควรจัดเด็กเป็นกลุ่มๆ ให้มีจำนวนน้อยลง โดยแยกเป็นช่วงอายุ และทำความเข้าใจกับเนื้อหานิทานและใช้ภาษาง่ายๆ ที่เด็กเข้าใจ และควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยนิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้บ่อยขึ้น
5. จากกิจกรรมการพัฒนานิทานคุณธรรม จริยธรรม ครูปฐมวัย ต้องสื่อสารกับตนเอง เพื่อศึกษาข้อมูลสำหรับใช้สร้างนิทาน ได้แก่ ข้อมูลพฤติกรรมเด็ก ข้อมูลนิทานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและข้อมูลเทคนิคการเล่านิทาน สื่อสารกับเพื่อนเพื่อพัฒนานิทานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม และวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ร่วมกัน สื่อสารกับเด็กเพื่อส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้กับเด็กด้วยการใช้นิทาน และสื่อสารกับผู้ปกครองเพื่อให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และทราบข้อมูล/ผลการจัดกิจกรรม