Collection: แฟ้มสะสมผลงานภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557

ผลงานนิทาน นางสาวศิริลักษณ์ แก้วคำหงษ์

Image

ฉากที่ 7

Details

ฉากที่ 6

Details

Image

ฉากที่ 6

Details

ฉากที่ 5

Details

ฉากที่ 4

Details

ฉากที่ 3

Details

ฉากที่1

Details

ฉากที่2

Details

หน้าปก

Details

น้องเนยผู้พอเพียง

            นิทานเรื่อง  น้องเนยผู้พอเพียง
             ที่ทุ่งกว้างแห่งหนึ่ง  มีครอบครัวเล็กๆอันแสนอบอุ่นครอบครัวหนึ่งมีสมาชิกอยู่ 4 คน คือ พ่อ แม่ และลูกฝาแฝดคู่หนึ่ง  ชื่อ น้องแยม  และน้องเนย  ทุกคนในครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้านหลังน้อยมีอาหารการกินอย่างอุดมสมบูรณ์เพราะพ่อแม่นั้นปลูกข้าวและผักผลไม้ไว้มากมาย
             วันหนึ่งพ่อแม่จึงปรึกษากันว่า  ลูกทั้ง 2 ก็โตพอที่จะแยกไปอยู่ตามลำพังได้แล้ว
แม่ :   "ลูกเราก็โตพอที่จะแยกออกไปอยู่ตามลำพังได้แล้วนะ"
พ่อ :   "จ๊ะ  เดี๋ยวพ่อจะพูดกับลูกๆนะ"
พ่อจึงบอกให้น้องแยม และน้องเนยทราบในขณะที่กำลังรับประทานอาหารเช้า
พ่อ :  "ลูกๆเอ้ย  พ่อคิดว่าถึงเวลาแล้วละที่ลูกทั้งสองควรออกไปอยู่ตามลำพัง"
ลูกๆ : ทำไมละค่ะพ่อ 
พ่อ :  ลูกๆโตแล้วถึงเวลาที่ต้องอยู่ตามลำพัง พ่อแม่ก็นับวันแก่เฒ่าลง ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ตลอดชีวิตได้หรอก
ลูกๆ :  ค่ะคุณพ่อ
             พ่อให้น้องแยมกับน้องเนยขอสิ่งที่ที่ต้องการในการใช้ชีวิตตามลำพังโดยให้น้องแยมขอก่อน  น้องแยมขอเงินทองและไร่นาของพ่อส่วนหนึ่ง  พ่อจึงยกให้  ส่วนน้องเนยกลับขอเมล็ดพันธ์ข้าวและเมล็ดพันธ์พืชผักต่างๆของพ่อพร้อมที่ดินส่วนหนึ่ง  พ่อก็ยกให้ด้วยความประหลาดใจที่น้องเนยไม่ขอเงินทอง
             เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว  น้องแยมและน้องเนยจึงออกจากบ้านของพ่อ แม่  ไปสร้างบ้านของตนเองคนละหลัง  โดยแยมนั้นสร้างบ้านหลังใหญ่อยู่ใกล้ๆทุ่งนาที่พ่อยกให้
            ส่วนเนยสร้างบ้านหลังใหม่ซึ่งไม่ใหญ่นักบริเวณทุ่งนาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเดิมนักแล้วเริ่มลงมือถากถางหญ้าและพรวนดินอย่างขยันขันแข็ง  เพื่อเตรียมไว้สำหรับเพาะปลูก
             น้องแยมนั้นมีความสุขมากในบ้านหลังใหญ่  เพราะไม่ต้องทำงานเหมือนตอนอยู่กับพ่อแม่  และใช้เงินทองที่พ่อยกให้อย่างฟุ่มเฟือย อยากได้อะไรก็ซื้อ   น้องแยมไม่ทำงานใดๆเลยนอกจากกินแล้วก็นอน
             ส่วน้องเนยนั้นเมื่อเตรียมพื้นที่สำหรับเพาะปลูกเสร็จแล้วนำเมล็ดพันธ์ข้าวและผักผลไม้มาปลูกและหมั่นดูแลรดน้ำทุกวันจนข้าวและพืชผักค่อยๆงอกเติบโตขึ้นเรื่อยๆในที่สุดก็มีรวงข้าวสีทองเต็มทุ่งนา และพืชผักผลไม้เต็มสวน  น้องเนยได้แบ่งปันข้าวและพืชผักผลไม้ให้พ่อแม่ และเพื่อนบ้าน
              พ่อแม่เมื่อเห็นน้องแยมเอาแต่กินกับนอนและใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยก็รู้สึกเป็นห่วงว่าต่อไปน้องแยมต้องลำบาก แต่เมื่อเห็นน้องเนยขยันขันแข็งปลูกข้าวและผักผลไม้เต็มทุ่งแล้วยังแบ่งปันมาให้พ่อแม่อีกด้วยก็รู้สึกชื่นชมยินดี
            ในที่สุดเงินทองของน้องแยมก็หมด  ทำให้น้องแยมต้องอดอาหาร  โชคดีวันนี้น้องเนยมาเยี่ยมและนำอาหารมาฝากด้วย
             น้องแยมดีใจมากที่ได้อาหาร  จึงถามน้องเนยว่า
น้องแยม  :   "เธอเอาอาหารมาจากไหนเยอะแยะ"?
น้องเนย   :   ฉันมีโอกาสได้ดูโทรทัศน์และได้เห็นโครงการตามพระราชดำรัชเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พอดีฉันได้เมล็ดพันธุ์ข้าวและผักผลไม้จากพ่อมา  ฉันเลยลงมือปลูกไว้ที่ทุ่งนาของฉัน     ฉันจะพาเธอไปดูข้าวและผักที่ฉันปลูกไว้ที่ทุ่งนาของฉัน   ตามพระราชดำรัชของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ว่าอยู่อย่างพอเพียง พอมีพอกิน  มีกินมีอยู่ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่หรูหราก็ได้ ”
  น้องเนยจึงพาไปดูข้าวและพืชผักผลไม้ที่ตนปลูกไว้ที่ทุ่งนา
             น้องแยมรู้สึกชื่นชมในความขยันและอดทนของน้องเนยมาก  และรู้สึกระอายใจตนที่เอาแต่กินกับนอนไม่ขยันหมั่นเพียรเหมือนน้องเนย
              เมื่อน้องแยมสำนึกได้แล้วจึงขอเมล็ดพันธ์ข้าวและพืชผักจากน้องเนยและลงมือเพาะปลูกที่ทุ่งนาของตนเอง น้องแยมหมั่นดูแลรดน้ำ  จนในที่สุดก็มีข้าวและอาหารกินมากมายสามารถแบ่งปันข้าวและผักผลไม้ให้พ่อแม่อีกด้วย
              พ่อแม่ก็รู้สึกดีใจที่ลูกทั้งสองสามารถใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังได้อย่างมีความสุข  ด้วยความขยันหมั่นเพียรของตนเอง และอยู่อย่างพอเพียง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  อยู่อย่างพอเพียง พอมีพอกิน  มีกินมีอยู่ ไม่ฟุ่มเฟือย ชีวิตก็มีสุข


Comments

หน้านี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ ผลงานนิทาน ไม่ใช่รายงานการพัฒนาบุคลิกภาพ

1 comment