นิทานเรื่อง ภาพวาดของแกะน้อย
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีครอบครัวแกะครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวนี้มีความสุขมาก เพราะวันนี้แกะน้อยจะได้ไปเรียนหนังสือซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดเทอม
คุณแม่เดินมาส่งแกะน้อยที่หน้าบ้าน กวางน้อยเพื่อนสนิทของแกะน้อยมาพอดี กวางน้อยสวัสดีทักทายคุณแม่ของแกะน้อย และทั้งสองจึงเดินไปโรงเรียนด้วยกัน พูดหยอกล้อกันสนุกสนาน
พอถึงโรงเรียน แกะน้อยและกวางน้อยทักทายสวัสดีคุณครูและวิ่งไปหาเพื่อนๆสวัสดีทักทายกัน และชวนกันไปเล่นริมสระนำ้ข้างโรงเรียน
ชั่งโมงแรกของการเรียน คุณครูให้นักเรียนวาดภาพกิจกรรมวันเปิดเทอมที่ผ่านมา เด็กๆชอบวาดภาพทุกคนมีความสุข
ช้างน้อยเป็นผู้ที่วาดภาพเก่งที่สุดในชั้นเรียน เห็นแกะน้อยนั่งอยู่เฉยๆจึงเข้ามาถามว่า "ให้เราช่วยอะไรไหม" แกะน้อยจึงบอกว่า "วาดภาพให้เราหน่อยสิเราวาดภาพไม่เป็น" ช้างน้อยบอกว่า "เราไม่วาดให้หรอกแต่เราจะสอนเธอวาดภาพเอง"
ในระหว่างที่เพื่อนๆวาดภาพกันอยู่นั้นแกะน้อยได้แต่นั่งอยู่เฉยๆเพราะแกะน้อยวาดภาพไม่เก่ง จึงไม่กล้าลงมือวากภาพ เพราะถ้าวาดภาพไม่สวยก็กลัวคุณครูตำหนิ
ถึงเวลาพักกลางวัน เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จ ช้างน้อยจะชวนแกะน้อยไปฝึกวาดภาพที่ใกล้ๆบริเวณริมสระนำ้ข้างโรงเรียน แกะน้อยเริ่มวาดภาพเก่งขึ้นจนเพื่อนๆและคุณครูแปลกใจ
เมื่อยามว่างแกะน้อยจะชวนเพื่อนๆไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด เป็นประจำ แกะน้อยยืมหนังสือมาอ่านที่บ้าน และฝึกวาดภาพ ทบทวนความรู้วิธีการวากภาพที่ช้างน้อยสอนให้เสมอ
ช้างน้อยและเพื่อนๆ ยอมรับในผลงานวาดภาพของแกะน้อย ทุกคนต่างชมแกะน้อยว่าเก่ง แกะน้อยยิ้มรับด้วยความยินดี
เมื่อกลับถึงบ้าน แกะน้อยฝึกทำ "ภาพพิมพ์" โดยใช้ใบไม้ที่มีอยู่บริเวณบ้านมาฝึกทำภาพพิมพ์และค้นคว้าหาความรู้วิธีการวาดภาพใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา จนทำให้แกะน้อยได้รับรางวัลชนะเลิศการวาดภาพ เพื่อนๆปรบมือให้แกะน้อย แกะน้อยหันมาหาช้างน้อยและขอบคุณที่แนะนำสิ่งดีๆให้ ช้างน้อยบอกว่า "เป็นเพราะเธอใฝ่เรียนรู้จึงทำให้เธอประสบความสำเร็จ"
คุณแม่เดินมาส่งแกะน้อยที่หน้าบ้าน กวางน้อยเพื่อนสนิทของแกะน้อยมาพอดี กวางน้อยสวัสดีทักทายคุณแม่ของแกะน้อย และทั้งสองจึงเดินไปโรงเรียนด้วยกัน พูดหยอกล้อกันสนุกสนาน
พอถึงโรงเรียน แกะน้อยและกวางน้อยทักทายสวัสดีคุณครูและวิ่งไปหาเพื่อนๆสวัสดีทักทายกัน และชวนกันไปเล่นริมสระนำ้ข้างโรงเรียน
ชั่งโมงแรกของการเรียน คุณครูให้นักเรียนวาดภาพกิจกรรมวันเปิดเทอมที่ผ่านมา เด็กๆชอบวาดภาพทุกคนมีความสุข
ช้างน้อยเป็นผู้ที่วาดภาพเก่งที่สุดในชั้นเรียน เห็นแกะน้อยนั่งอยู่เฉยๆจึงเข้ามาถามว่า "ให้เราช่วยอะไรไหม" แกะน้อยจึงบอกว่า "วาดภาพให้เราหน่อยสิเราวาดภาพไม่เป็น" ช้างน้อยบอกว่า "เราไม่วาดให้หรอกแต่เราจะสอนเธอวาดภาพเอง"
ในระหว่างที่เพื่อนๆวาดภาพกันอยู่นั้นแกะน้อยได้แต่นั่งอยู่เฉยๆเพราะแกะน้อยวาดภาพไม่เก่ง จึงไม่กล้าลงมือวากภาพ เพราะถ้าวาดภาพไม่สวยก็กลัวคุณครูตำหนิ
ถึงเวลาพักกลางวัน เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จ ช้างน้อยจะชวนแกะน้อยไปฝึกวาดภาพที่ใกล้ๆบริเวณริมสระนำ้ข้างโรงเรียน แกะน้อยเริ่มวาดภาพเก่งขึ้นจนเพื่อนๆและคุณครูแปลกใจ
เมื่อยามว่างแกะน้อยจะชวนเพื่อนๆไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด เป็นประจำ แกะน้อยยืมหนังสือมาอ่านที่บ้าน และฝึกวาดภาพ ทบทวนความรู้วิธีการวากภาพที่ช้างน้อยสอนให้เสมอ
ช้างน้อยและเพื่อนๆ ยอมรับในผลงานวาดภาพของแกะน้อย ทุกคนต่างชมแกะน้อยว่าเก่ง แกะน้อยยิ้มรับด้วยความยินดี
เมื่อกลับถึงบ้าน แกะน้อยฝึกทำ "ภาพพิมพ์" โดยใช้ใบไม้ที่มีอยู่บริเวณบ้านมาฝึกทำภาพพิมพ์และค้นคว้าหาความรู้วิธีการวาดภาพใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา จนทำให้แกะน้อยได้รับรางวัลชนะเลิศการวาดภาพ เพื่อนๆปรบมือให้แกะน้อย แกะน้อยหันมาหาช้างน้อยและขอบคุณที่แนะนำสิ่งดีๆให้ ช้างน้อยบอกว่า "เป็นเพราะเธอใฝ่เรียนรู้จึงทำให้เธอประสบความสำเร็จ"
บันทึกสะท้อนบทเรียนที่ได้จากการพัฒนานิทาน
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสร้างนิทาน
1.โครงเรื่องของเนื้อหาต้องไม่ซับซ้อน มีการลำดับเหตุการณ์ก่อนหลัง
2.ตัวละครขึ้นอยู่กับจินตนาการและตัวละครไม่ควรเยอะเกินไป
3.ฉากเป็นสถานที่เกิดเหตุ
4.บทสนทนาควรสั้นและเข้าใจง่าย กระดับสนุกสนาน
5.มีคติสอ้นใจเมื่อจบนิทาน เพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม
ความรู้สึกที่มีต่อนิทาน
1.มีความกังวลในการแต่งเรื่อง
2.วาดภาพไม่เก่ง
1.โครงเรื่องของเนื้อหาต้องไม่ซับซ้อน มีการลำดับเหตุการณ์ก่อนหลัง
2.ตัวละครขึ้นอยู่กับจินตนาการและตัวละครไม่ควรเยอะเกินไป
3.ฉากเป็นสถานที่เกิดเหตุ
4.บทสนทนาควรสั้นและเข้าใจง่าย กระดับสนุกสนาน
5.มีคติสอ้นใจเมื่อจบนิทาน เพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม
ความรู้สึกที่มีต่อนิทาน
1.มีความกังวลในการแต่งเรื่อง
2.วาดภาพไม่เก่ง