นิทานเรื่องผู้นำคนใหม่
นิทานคุณธรรม จริธรรม(ทักษะด้านการเป็นผู้นำ)นิทาเรื่อง ผู้นำคนใหม่
ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่งมีเหล่าฝูงกวางอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีพญากวางผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม มีความรับผิดชอบ ปกครองฝูงกวางนับพันตัว พญากวางมีลูกชายอยู่สองตัวชื่อภูผาและพาที ตัวที่ชื่อภูผานั้นมีความโง่เขลา ดื้อดึง ส่วนพาทีนั้นเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด อยู่ในโอวาท ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เชื่อฟังคำสั่งสอนของพญากวาง
วันนี้พญากวางได้เรียกให้ลูกๆทั้งสองมาพบ แล้วพูดขึ้นว่า...
ภูผาและพาทีลูกพ่อ พ่อเองก็แก่มากแล้วเจ้าทั้งสองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พ่อขอให้เจ้าทั้งสองเป็นจ่าฝูงแทนพ่อ
โดยพญากวางได้แบ่งการปกครองออกเป็นสองฝ่าย โดยให้ภูผาปกครองฝูงกวางห้าร้อยตัว ส่วนพาทีปกครองอีกห้าร้อยตัว
เมื่อพญากวางแบ่งการปกครองเสร็จก็ได้แนะนำและบอกวิธีการในการปกครองฝูงกวางให้ลูกชายทั้งสองฟังว่า : ภัยที่อันตรายที่สุดก็คือมนุษย์ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ในต้นฤดูฝนนั้นชาวนาจะเริ่มเพาะข้าวกล้าชาวบ้านเกรงว่าสัตว์ต่างๆจะมาเหยียบย่ำนาข้าว ชาวบ้านจึงหาทางป้องกันโดยการออกล่าสัตว์นำไปขายและนำมาเป็นอาหาร
ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงไปเตือนบริวารของเจ้าให้รวังตัวกันด้วยอย่าเห็นแก่กิน ซึ่งในเวลากลางวันก็ให้ไปหากินหญ้าอยู่บนเชิงเขาอย่าอยู่บริเวณที่ราบ เพราะบริเวณที่ราบนั้นยากต่อการหลบหนี และพวกชาวบ้านจะเห็นได้โดยง่าย ให้ออกหากินเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น
เมื่อพูดจบพญากวางก็แยกไปพักผ่อน เหลือกวางภูผาและกวางพาทีอยู่สองตัว เจ้ากวางพาทีรู้นิสัยของเจ้ากวางภูผาผู้เป็นพี่ดี จึงพูดขึ้นว่า : ภูผาเจ้าจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพ่ออย่างเคร่งครัดนะ
เมื่อกวางภูผาได้ยินดังนั้นจึงพูดขึ้นทันทีว่า : พาทีเจ้าอย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย พ่อก็พูดให้เรากลัวๆไปอย่างนั้นเองแหละ
ว่าแล้วภูผาก็เดินไปอยู่ที่กลุ่มฝูงของตัวเอง แล้วพูดขึ้นว่า : บริวารของข้า ข้าหิวมากเลย มีใครจะออกไปหาอาหารกับข้าบ้าง
บริวารตัวหนึงก็พูดขึ้นว่า : แต่ท่านหัวหน้าครับ ท่านพญากวางเคยบอกว่าห้ามออกไปหาอาหารกินเวลากลาววันเด็ดขาดนะครับ
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วกวางภูผาก็พูดขึ้นด้วยเสียงไม่พอใจว่า : ช่างประไร ข้าหิว ข้าจะออกไปหากิน ใครไม่ไปก็เชิญนอนหิวตายอยู่ตรงนนี้แหละ ว่าแล้วกวางภูผาก็เดินนำหน้าฝูงไปยังป่า
ขณะที่เจ้ากวางภูผาและเหล่าบริวารเดินมากินหญ้าได้สักพักใหญ่ ก็ได้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น ชาวนาที่ออกมาล่าสัตว์กำลังซุ่มดูฝูงกวางที่กำลังเล็มหญ้าอยู่พอดี ชาวนากำลังจะยกธนูยิงเข้าใส่ฝูงกวาง แต่โชคดีที่บริวารของฝูงกวางตัวหนึ่งเห็นเข้า จึงบอกให้เพื่อนๆรีบวิ่งหนีไปได้ทัน
เมื่อบริวารกวางตัวหนึ่งไดสังเกตเห็นว่าฝูงของตนวิ่งมาไกลจากอันตรายแล้วจึงพูดกับท่านหัวหน้ากวางว่า นี่ท่านภูผาข้าบอกท่านแล้วว่ามันอันตราย ไม่ควรออกมาหากินในเวลากลางวัน ท่านก็ไม่เชื่อ
เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้าภูผาก็รู้สึกโกรธมากจึงพูดขึ้นโดยไม่สำนึกในการทำผิดกฎเลยว่า อันตรายแล้วไงล่ะ พวกเจ้าก็ไม่ได้ถูกทำร้ายแม้แต่ตัวเดียวไม่ใช่หรอ อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลยน่า
พอกลับมาถึงที่พักก็ค่ำพอดีเหล่าบริวารของเจ้ากวางภูผาก็ได้แยกย้ายกันเข้านอน แต่หากว่าฝ่ายกวางพาทีนั้นกำลังจะพาบริวารของตนออกไปหากิน แม้จะเป็นตอนกลางคืนก็ตาม เพราะเจ้ากวางพาทีเป็นผู้ที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อในการปฏิบัติตนเป็นผู้นำ เป็นแบบอย่างที่ดีและจะต้องดูแลปกป้องบริวารของตนให้รอดพ้นจากอันตราย
เช้าวันรุ่งขึ้นฝ่ายกวางภูผาก็ได้นำเหล่าบริวารออกหากินตามเคย แต่ว่าวันนีไม่ได้โชคดีเหมือนวันก่อน ชาวนาได้เดินตามรอยของเหล่าฝูงกวางมา แล้ววางกับดัก ทั้งยิงธนูเข้าใส่เหล่าฝูงกวางทำให้ฝูงกวางโดนยิงตายหมดเลย แต่ทว่าเจ้ากวางภูผาได้ใช้ช่วงเวลาชุลมุลของเหล่ากวางหลบหนีมาได้
วันต่อมาพญากวางได้นัดหมายประชุมกัน ซึ่งเหล่าบริวารของกวางพาทีก็ได้เดินทางมาถึงที่ประชุมก่อน พญากวางและบรรดาฝูงกวางทั้งหมดต่างก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นกวางภูผาเดินมาเพียงตัวเดียว
พญากวางจึงเอ่ยถามขึ้นว่า ภูผาลูกพ่อแล้วบรรดาบริวารของเจ้าหายไปไหนกันหมดล่ะ
เมื่อได้ยินดังนั้นกวางภูผาถึงกับร่ำไห้ แล้วพูดขึ้นว่า ท่านพ่อข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านเลย ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบ ข้าได้พาเหล่าบริวารออกไปหากินตอนกลางวันแล้วถูกพวกชาวนาฆ่าตายหมดข้าไม่สมควรเป็นผู้นำเอาเสียเลย เมื่อได้ยินดังนั้นพญากวางจึงตัดสินใจยกตำแหน่งให้กวางพาทีเป็นพญากวางแทนตนในการปกครองฝูงกวางทั้งหมด
นิทานเรื่อนี้สอนให้รู้ว่า การเป็นผู้นำที่ดีนั้นจะต้องประพฤติปฏิบัติตามกฎระเบียบ และข้อตกลง เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อการดำรงชีวิต
ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่งมีเหล่าฝูงกวางอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีพญากวางผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม มีความรับผิดชอบ ปกครองฝูงกวางนับพันตัว พญากวางมีลูกชายอยู่สองตัวชื่อภูผาและพาที ตัวที่ชื่อภูผานั้นมีความโง่เขลา ดื้อดึง ส่วนพาทีนั้นเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด อยู่ในโอวาท ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เชื่อฟังคำสั่งสอนของพญากวาง
วันนี้พญากวางได้เรียกให้ลูกๆทั้งสองมาพบ แล้วพูดขึ้นว่า...
ภูผาและพาทีลูกพ่อ พ่อเองก็แก่มากแล้วเจ้าทั้งสองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พ่อขอให้เจ้าทั้งสองเป็นจ่าฝูงแทนพ่อ
โดยพญากวางได้แบ่งการปกครองออกเป็นสองฝ่าย โดยให้ภูผาปกครองฝูงกวางห้าร้อยตัว ส่วนพาทีปกครองอีกห้าร้อยตัว
เมื่อพญากวางแบ่งการปกครองเสร็จก็ได้แนะนำและบอกวิธีการในการปกครองฝูงกวางให้ลูกชายทั้งสองฟังว่า : ภัยที่อันตรายที่สุดก็คือมนุษย์ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ในต้นฤดูฝนนั้นชาวนาจะเริ่มเพาะข้าวกล้าชาวบ้านเกรงว่าสัตว์ต่างๆจะมาเหยียบย่ำนาข้าว ชาวบ้านจึงหาทางป้องกันโดยการออกล่าสัตว์นำไปขายและนำมาเป็นอาหาร
ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงไปเตือนบริวารของเจ้าให้รวังตัวกันด้วยอย่าเห็นแก่กิน ซึ่งในเวลากลางวันก็ให้ไปหากินหญ้าอยู่บนเชิงเขาอย่าอยู่บริเวณที่ราบ เพราะบริเวณที่ราบนั้นยากต่อการหลบหนี และพวกชาวบ้านจะเห็นได้โดยง่าย ให้ออกหากินเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น
เมื่อพูดจบพญากวางก็แยกไปพักผ่อน เหลือกวางภูผาและกวางพาทีอยู่สองตัว เจ้ากวางพาทีรู้นิสัยของเจ้ากวางภูผาผู้เป็นพี่ดี จึงพูดขึ้นว่า : ภูผาเจ้าจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพ่ออย่างเคร่งครัดนะ
เมื่อกวางภูผาได้ยินดังนั้นจึงพูดขึ้นทันทีว่า : พาทีเจ้าอย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย พ่อก็พูดให้เรากลัวๆไปอย่างนั้นเองแหละ
ว่าแล้วภูผาก็เดินไปอยู่ที่กลุ่มฝูงของตัวเอง แล้วพูดขึ้นว่า : บริวารของข้า ข้าหิวมากเลย มีใครจะออกไปหาอาหารกับข้าบ้าง
บริวารตัวหนึงก็พูดขึ้นว่า : แต่ท่านหัวหน้าครับ ท่านพญากวางเคยบอกว่าห้ามออกไปหาอาหารกินเวลากลาววันเด็ดขาดนะครับ
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วกวางภูผาก็พูดขึ้นด้วยเสียงไม่พอใจว่า : ช่างประไร ข้าหิว ข้าจะออกไปหากิน ใครไม่ไปก็เชิญนอนหิวตายอยู่ตรงนนี้แหละ ว่าแล้วกวางภูผาก็เดินนำหน้าฝูงไปยังป่า
ขณะที่เจ้ากวางภูผาและเหล่าบริวารเดินมากินหญ้าได้สักพักใหญ่ ก็ได้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น ชาวนาที่ออกมาล่าสัตว์กำลังซุ่มดูฝูงกวางที่กำลังเล็มหญ้าอยู่พอดี ชาวนากำลังจะยกธนูยิงเข้าใส่ฝูงกวาง แต่โชคดีที่บริวารของฝูงกวางตัวหนึ่งเห็นเข้า จึงบอกให้เพื่อนๆรีบวิ่งหนีไปได้ทัน
เมื่อบริวารกวางตัวหนึ่งไดสังเกตเห็นว่าฝูงของตนวิ่งมาไกลจากอันตรายแล้วจึงพูดกับท่านหัวหน้ากวางว่า นี่ท่านภูผาข้าบอกท่านแล้วว่ามันอันตราย ไม่ควรออกมาหากินในเวลากลางวัน ท่านก็ไม่เชื่อ
เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้าภูผาก็รู้สึกโกรธมากจึงพูดขึ้นโดยไม่สำนึกในการทำผิดกฎเลยว่า อันตรายแล้วไงล่ะ พวกเจ้าก็ไม่ได้ถูกทำร้ายแม้แต่ตัวเดียวไม่ใช่หรอ อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลยน่า
พอกลับมาถึงที่พักก็ค่ำพอดีเหล่าบริวารของเจ้ากวางภูผาก็ได้แยกย้ายกันเข้านอน แต่หากว่าฝ่ายกวางพาทีนั้นกำลังจะพาบริวารของตนออกไปหากิน แม้จะเป็นตอนกลางคืนก็ตาม เพราะเจ้ากวางพาทีเป็นผู้ที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อในการปฏิบัติตนเป็นผู้นำ เป็นแบบอย่างที่ดีและจะต้องดูแลปกป้องบริวารของตนให้รอดพ้นจากอันตราย
เช้าวันรุ่งขึ้นฝ่ายกวางภูผาก็ได้นำเหล่าบริวารออกหากินตามเคย แต่ว่าวันนีไม่ได้โชคดีเหมือนวันก่อน ชาวนาได้เดินตามรอยของเหล่าฝูงกวางมา แล้ววางกับดัก ทั้งยิงธนูเข้าใส่เหล่าฝูงกวางทำให้ฝูงกวางโดนยิงตายหมดเลย แต่ทว่าเจ้ากวางภูผาได้ใช้ช่วงเวลาชุลมุลของเหล่ากวางหลบหนีมาได้
วันต่อมาพญากวางได้นัดหมายประชุมกัน ซึ่งเหล่าบริวารของกวางพาทีก็ได้เดินทางมาถึงที่ประชุมก่อน พญากวางและบรรดาฝูงกวางทั้งหมดต่างก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นกวางภูผาเดินมาเพียงตัวเดียว
พญากวางจึงเอ่ยถามขึ้นว่า ภูผาลูกพ่อแล้วบรรดาบริวารของเจ้าหายไปไหนกันหมดล่ะ
เมื่อได้ยินดังนั้นกวางภูผาถึงกับร่ำไห้ แล้วพูดขึ้นว่า ท่านพ่อข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านเลย ไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบ ข้าได้พาเหล่าบริวารออกไปหากินตอนกลางวันแล้วถูกพวกชาวนาฆ่าตายหมดข้าไม่สมควรเป็นผู้นำเอาเสียเลย เมื่อได้ยินดังนั้นพญากวางจึงตัดสินใจยกตำแหน่งให้กวางพาทีเป็นพญากวางแทนตนในการปกครองฝูงกวางทั้งหมด
นิทานเรื่อนี้สอนให้รู้ว่า การเป็นผู้นำที่ดีนั้นจะต้องประพฤติปฏิบัติตามกฎระเบียบ และข้อตกลง เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อการดำรงชีวิต
นิทานเรื่องผู้นำคนใหม่
นิทานเรื่องผู้นำคนใหม่
1.ในการสร้างนิทานได้เรียนรู้อะไรบ้าง
-ทักษะการวาดรูปและระบายสี
-ทักษะการแต่งนิทานคุณธรรม จริยธรรมสำหรับเด็ก
-ทักษะการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต การสัมภาษณ์ครูต้นแบบ
-ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
2. ความรู้สึกที่มีต่อการสร้างนิทาน
-มีความภาคภูมิใจมาก เพราะการสร้างนิทานด้วยตัวเองนั้นจะต้องใช้ความรู้หลายๆด้าน การหาข้อมูลในการแต่งเนื้อเรื่อง และการใช้ศิลปะเพื่อการทำรูปเล่มให้สวยงามน่าสนใจ และให้เด็กได้เรียนรู้คุณธรรมพร้อมกับความเพลิดเพลิน
3.ขั้นตอนในการสร้างนิทาน
1.สังเกตพฤติกรรมของเด็กที่ศพด.และเลือกปัญหาที่ต้องการพัฒนาและแก้ไขก่อน
2.ศึกษานิทานเรื่องต่างๆ เช่นนิทานพื้นบ้าน และสืบค้นในอินเตอร์เน็ต
3.รวบรวมข้อมูล
4.แต่งนิทาน1เรื่อง
5.ปรับปรุงเนื้อหานิทาน การเลือกตัวละคร การใช้คำให้เหมาะสม
6.วาดรูปตัวละคร จัดทำรูปเล่มนิทาน Bigbook
7.ทดลองนำไปใช้ ที่ศพด.และปรับปรุงแก้ไข
8.นำนิทานไปใช้พร้อมอัดvdo
4.ความประทับใจในการสร้างนิทาน
-นิทานส่งเสริมคุณธรรมที่สร้างขึ้นนี้ เนื้อหาเหมาะสำหรับเด็กปฐมวัย คือเนื้อหาที่ไม่เยอะเกินและกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ และสามารถนำข้อคิดจากนิทานไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
5.ปัญหาและอุปสรรค และแนวทางแก้ไข
-ไม่มีประสบการณ์ในการสร้างนิทาน
-ไม่มีศิลปะในการวาดภาพและระบายสี
-หนังสือที่ทำรูปเล่มไม่ค่อยสวยงามตามความตั้งใจ
แนวทางแก้ไข
-ศึกษาข้อมูลในการสร้งนิทาน และปรับปรุงตามคำแนะนำของอาจารย์
-ทักษะการวาดรูปและระบายสี
-ทักษะการแต่งนิทานคุณธรรม จริยธรรมสำหรับเด็ก
-ทักษะการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต การสัมภาษณ์ครูต้นแบบ
-ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
2. ความรู้สึกที่มีต่อการสร้างนิทาน
-มีความภาคภูมิใจมาก เพราะการสร้างนิทานด้วยตัวเองนั้นจะต้องใช้ความรู้หลายๆด้าน การหาข้อมูลในการแต่งเนื้อเรื่อง และการใช้ศิลปะเพื่อการทำรูปเล่มให้สวยงามน่าสนใจ และให้เด็กได้เรียนรู้คุณธรรมพร้อมกับความเพลิดเพลิน
3.ขั้นตอนในการสร้างนิทาน
1.สังเกตพฤติกรรมของเด็กที่ศพด.และเลือกปัญหาที่ต้องการพัฒนาและแก้ไขก่อน
2.ศึกษานิทานเรื่องต่างๆ เช่นนิทานพื้นบ้าน และสืบค้นในอินเตอร์เน็ต
3.รวบรวมข้อมูล
4.แต่งนิทาน1เรื่อง
5.ปรับปรุงเนื้อหานิทาน การเลือกตัวละคร การใช้คำให้เหมาะสม
6.วาดรูปตัวละคร จัดทำรูปเล่มนิทาน Bigbook
7.ทดลองนำไปใช้ ที่ศพด.และปรับปรุงแก้ไข
8.นำนิทานไปใช้พร้อมอัดvdo
4.ความประทับใจในการสร้างนิทาน
-นิทานส่งเสริมคุณธรรมที่สร้างขึ้นนี้ เนื้อหาเหมาะสำหรับเด็กปฐมวัย คือเนื้อหาที่ไม่เยอะเกินและกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ และสามารถนำข้อคิดจากนิทานไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
5.ปัญหาและอุปสรรค และแนวทางแก้ไข
-ไม่มีประสบการณ์ในการสร้างนิทาน
-ไม่มีศิลปะในการวาดภาพและระบายสี
-หนังสือที่ทำรูปเล่มไม่ค่อยสวยงามตามความตั้งใจ
แนวทางแก้ไข
-ศึกษาข้อมูลในการสร้งนิทาน และปรับปรุงตามคำแนะนำของอาจารย์