ถอดบทเรียน

ใบงาน ถอดบทเรียน
รหัสนักศึกษา 571111321102    ชื่อผู้ถอบทเรียน นางวินัยธร มาลัย
การถอดบทเรียน
1.สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ จากการพัฒนานิทานคุณธรรมจริยธรรม การทำใบงาน และนำไปทดลองใช้ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ตอบ จาการพัฒนานิทานคุณธรรมจริยธรรม การทำใบงาน และนำไปทดลองใช้ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และสิ่งที่คาดว่าจะได้รับคือเด็กเกิดความสนุกสนานในการฟังนิทานเด็กสามารถฟังและเข้าใจในเนื้อหาของนิทานสามารถถามคำถามที่ตนเองอยากรู้เกี่ยวกับนิทานได้และที่สำคัญสามารถตอบคำถามที่ครูถามเกี่ยวกับนิทานที่ฟังได้ นอกจากนั้นแล้วเด็กยังสามารถสื่อความหมายสื่อความคิดของตนเองผ่านใบงานที่ครูกำหนดให้ได้ และผลมี่คาดว่าจะได้รับคือเด็กเป็นคนที่มีคุณธรรมและจริยธรรมในจิตใจมากขึ้น
2.ผลที่ได้รับจากการพัฒนานิทานคุณธรรมจริยธรรม การทำใบงาน และนำไปทดลองใช้ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (มากกว่า น้อยกว่า หรือเท่ากับที่คาดหวังไว้)
ตอบ ผลที่ได้รับจาการพัฒนานิทานคุณธรรมจริยธรรมคือได้ผลมากกว่าที่ ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้เพราะว่านอกจากเด็กจะได้รับความสนุกสนานจากการฟังนิทานแล้วในการฟังนิทานเด็กสามารถฟังและเข้าใจในเนื้อหาของนิทานสามารถถามคำถามและตอบคำถามได้โดยไม่ได้ลังเล เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็นตื่นเต้นเมื่อได้เห็นภาพของนิทาน  เวลาถามคำถามเด็กส่วนมากจะแย่งกันตอบและเด็กสามารถบอกได้ว่าตัวละครตัวไหนมีนิสัยดีและไม่ดีตัวละครตัวไหนควรเอาเป็นแบบอย่างนอกจากนั้นแล้วเด็กยังสามารถนำนิทานไปเล่าให้ผู้ปกครองฟังได้ และนิทานที่จัดทำขึ้นยังส่งเสริมให้เด็กมีคุณธรรมจริยธรรมอีกด้วย

3.ระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดความต่างกันระหว่าง สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ กับ ผลที่ได้รับ
ตอบ สาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันระหว่างสิ่งที่คาดว่าจะได้รับกับผลที่ได้รับคือตัวครูเพราะว่าครูเป็นตัวที่สื่อความหมายจากนิทานให้เด็กฟังในการเล่าครูต้องใช้เทคนิคในการเล่านิทานเพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจในตัวนิทานและในการตอบคำถามของเด็กครูต้องจัดลำดับให้เด็กตอบคำตอบทีละคนหรือถามคำถามทีละคน
4.บทเรียนที่ได้รับสิ่งที่เรียนรู้จากสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างที่พบ  การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน  วิธีการเติมช่องว่างจากสิ่งที่คาดว่าจะได้รับกับผลที่ได้รับ
ตอบ บทเรียนที่ได้รับคือในขณะที่เด็กฟังนิทานเด็กๆจะแย่งกันถามและแย่งกันตอบโดยที่ไม่รอให้เพื่อนถามหรือตอบเสร็จก่อนครูจึงใช้วิธีการให้เด็กถามทีละคนโดยครูเรียกชื่อเด็กคนไหนก็ให้คนนั้นถามหรือตอบหรือเมื่อเด็กอยากถามหรืออยากตอบก็ให้เด็กยกมือ
5.จากกิจกรรมการพัฒนานิทานคุณธรรม จริยธรรม นักศึกษาคิดว่า ครูปฐมวัย ต้องสื่อสารกับตนเอง เพื่อน เด็ก ผู้ปกครองและชุมชนเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบ้าง  วิธีการสื่อสารใช้วิธีการใดได้บ้าง  ความถี่ที่ต้องใช้ในการสื่อสารกับคนแต่ละกลุ่มควรมีความถี่มากน้อยแค่ไหน
กลุ่มเป้าหมายในการสื่อสาร วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร "วิธีการสื่อสาร
(ระบุทั้งแบบวิธีการดั้งเดิม
และใช้เทคโนโลยี)" "ความถี่ในการสื่อสาร
(ทุกวัน/สัปดาห์ละครั้ง/เดือนละครั้ง/ภาคเรียนละเครื่อง)"
สื่อสารกับตัวเอง เพื่อสืบค้นข้อมูล "-พูดคุย การฟัง การจดบันทึก
-สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต" อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
สื่อสารกับเพื่อน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากการพูดคุยหรือการคุยผ่านทางไลน์ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
สื่อสารกับเด็ก เพื่อให้เด็กเกิดความสนุกสนานและเด็กมีคุณธรรมจริยธรรม โดยผ่านการเล่านิทานหรือเรื่องราวต่างๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
สื่อสารกับผู้ปกครอง ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการพัฒนาินทานคุณธรรมจริยธรรม โดยการพูดคุยโดยตรงหรือทางเอกสาร อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

6.นักศึกษาได้มีการพัฒนาบุคลิกภาพของครูปฐมวัยอย่างไรบ้าง ระหว่างการทำกิจกรรมเล่านิทาน การทำใบงาน และการสื่อสารในกิจกรรมดังกล่าว
ตอบ ระหว่างการทำกิจกรรมเล่านิทาน การทำใบงาน และการสื่อสารในกิจกรรมดังกล่าวได้มีการพัฒนาบุคลิกภาพของครูปฐมวัยคือการนั่งเล่านิทานคือรู้ว่าครูควรนั่งอย่างไร เทคนิคในการเล่าครูควรเล่าอย่างไรเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กให้เด็นสนใจที่จะฟังนิทาน บุคลิกภาพด้านการแต่งกายครูควรแต่งกายให้เหมาะสมสุภาพเรียบร้อยและที่สำคัญครูควรมีการแต่งหน้าทำผมเพื่อความสวยงามเพราะในขณะที่เล่านิทานก็จะช่วยดึงดูดความสนใจเด็กได้อีกทางหนึ่ง
7.คุณธรรม จริยธรรม และ จริยศาสตร์ด้านใดบ้างที่เกิดขึ้นระหว่างการทำกิจกรรมดังกล่าว
ตอบ สำหรับคุณธรรม จริยธรรม และจริยศาสตร์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำกิจกรรม คือ ความรับผิดชอบ ความมีนำ้ใจของเพื่อนร่วมงาน ความมีวินัยของเด็ก
8.แฟ้มผลงานที่ทำขึ้นสามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานตอบมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยตอนตรวจประกันคุณภาพได้อย่างไรบ้าง.              ตอบ นำมาเป็นหลักในเกณฑ์ในการประเมินคุณภาพความรู้ความสามารถของครูและการทำงานของเด็ก