Image gallery
No images found
เนื้อเรื่องนิทาน
หมู่บ้านเห็ดหอม
ยังมีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ชื่อว่าหมู่บ้านเห็ดหอม ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเพาะเห็ดหอม และเห็ดอื่นๆอีกมากมาย ชุมชนเห็ดหอมอยู่อย่างพึ่งพาอาศัยกัน มีกินมีใช้ไม่ขัดสน
วันหนึ่งมีพ่อค้าจากต่างแดนนำเอาของวิเศษเข้ามาเสนอขายในราคาแสนแพง
พ่อค้า:มาๆเร่เข้ามาฉันมีของวิเศษมาขายสิ่งนั้นเอาไว้ติดต่อพูดคุยกันโดยไม่ต้องเห็นหน้า และจะพกไปไหนมาไหนก็สะดวกครอบครัวนายเหมือน ภรรยาชื่อนางมั่ง ลูกสาวชื่อหนูมี ก็อยากได้
นายเหมือนนางมั่นและหนูมี:พ่อจ้าแม่จ้าฮัลโหลอยู่ไหนจ๊ะของวิเศษสิ่งนี้ช่างดีจริงๆหนูมี:ของวิเศษช่างสวยงามน่าใช้จริงๆฉันไม่สนใจเรียนเอาของวิเศษไปอวดเพื่อนดีกว่า แต่เพราะรายได้น้อย จึงยอมเป็นหนี้เพื่อให้ได้ของวิเศษมาใช้ เห็ดที่เพาะไว้ถูกทอดทิ้ง เหี่ยวเฉา
เงินทองที่สะสมไว้เริ่มร่อยหรอ ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพิ่ม นายเหมือน:ท่านเศรษฐีข้าของยืมเงินท่านหน่อยดอกร้อยละเท่าไรก็ไม่ว่า ท่านเศรษฐี:ฮาฮาเอาอย่างนี้ก็แล้วกันข้าคิดกับเจ้าร้อยละ20เมื่อเอาแต่ใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายกลับเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น เมื่อไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ สมบัติที่มีอยู่ก็ถูกยึด ทั้งบ้าน และฟาร์มเห็ด ก็ไม่เหลืออีกแล้วครอบครัวนายเหมือน ครอบครัวนายระเริง และอีกหลายบ้านที่ยอมเป็นหนี้เพื่อซื้อของวิเศษที่เกินความจำเป็น
ทั้งๆที่กว่าจะได้เงินมาต้องปลูกเห็ด ขายเห็ดจำนวนมาก ทำให้ ค ร อ บ ค รั ว เกิด ปั ญ ห า
เมื่อหลายๆครอบครัวมีปัญหา หมู่บ้านก็มีปัญหา และก็อ่อนแอลงเรื่อยๆหลังจากนั้นมาครอบครัวของนายเหมือนไม่มีสมบัติอะไรเหลืออยู่เลยต่างคนก็ทะเลาะกันจนครอบครัวแตกแยกนายเหมือนนางมั่นและหนูมี:พ่อจ้าแม่จ้าสมบัติของเราถูกยึดทั้งบ้านและฟาร์มเห็ดจะทำยังไงดี เป็นเพราะพ่อกับแม่นั้นแหละซื้ออะไรมาไม่เห็นจะวิเศษอะไรเลยฮือๆๆๆวันหนึ่งนายเหมือนได้บังเอิญเห็นครอบครัวของนายลีอยู่กันอย่างมีความสุขจึงเข้าไปถามนายลี:ครอบครัวของฉันกินอยู่อย่างพอเพียงไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นจากนั้นมานายเหมือนจึงไปปรึกษากับภรรยาว่านายเหมือน:ต่อนี้ไปครอบครัวของเราน่าจะอยู่อย่างพอเพียงไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นและรู้จักทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยนะพ่อครอบครัวเราจะได้มีความสุขเหมือนครอบครัวของนายลีต่อจากนี้ไปครอบครัวของนายเหมือนก็ดีขึ้นๆจนคนในหมู่บ้านนำครอบครัวของนายเหมือนเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตประจำวันของครอบครัวของตนต่อไป
คติสอนใจ:การรู้จักพอประมาณตนมีเหตุผลในการใช้ชีวิตก็จะดำเนินชีวิตของตนให้มีความสุขได้
อยู่อย่างพอเพียงหมายถึงคุณลักษณะที่แสดงออกถึง
การดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณมีเหตุผลรอบคอบ
มีคุณธรรม มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีและปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคม
ได้อย่างมีความสุข ผู้ที่มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง
จะดำเนินชีวิตอย่างประมาณตนมีเหตุผล รอบคอบ
ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรับผิดชอบ ไม่เบียด
เบียนผู้อื่น เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆมีการวางแผน
ป้องกันความเสี่ยงและพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง
ค่านิยม บัญญัติ12ประการ
ข้อที่10ไม่ขาดพอเพียง เลี้ยงชีพได้
ยังมีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ชื่อว่าหมู่บ้านเห็ดหอม ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเพาะเห็ดหอม และเห็ดอื่นๆอีกมากมาย ชุมชนเห็ดหอมอยู่อย่างพึ่งพาอาศัยกัน มีกินมีใช้ไม่ขัดสน
วันหนึ่งมีพ่อค้าจากต่างแดนนำเอาของวิเศษเข้ามาเสนอขายในราคาแสนแพง
พ่อค้า:มาๆเร่เข้ามาฉันมีของวิเศษมาขายสิ่งนั้นเอาไว้ติดต่อพูดคุยกันโดยไม่ต้องเห็นหน้า และจะพกไปไหนมาไหนก็สะดวกครอบครัวนายเหมือน ภรรยาชื่อนางมั่ง ลูกสาวชื่อหนูมี ก็อยากได้
นายเหมือนนางมั่นและหนูมี:พ่อจ้าแม่จ้าฮัลโหลอยู่ไหนจ๊ะของวิเศษสิ่งนี้ช่างดีจริงๆหนูมี:ของวิเศษช่างสวยงามน่าใช้จริงๆฉันไม่สนใจเรียนเอาของวิเศษไปอวดเพื่อนดีกว่า แต่เพราะรายได้น้อย จึงยอมเป็นหนี้เพื่อให้ได้ของวิเศษมาใช้ เห็ดที่เพาะไว้ถูกทอดทิ้ง เหี่ยวเฉา
เงินทองที่สะสมไว้เริ่มร่อยหรอ ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพิ่ม นายเหมือน:ท่านเศรษฐีข้าของยืมเงินท่านหน่อยดอกร้อยละเท่าไรก็ไม่ว่า ท่านเศรษฐี:ฮาฮาเอาอย่างนี้ก็แล้วกันข้าคิดกับเจ้าร้อยละ20เมื่อเอาแต่ใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายกลับเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น เมื่อไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ สมบัติที่มีอยู่ก็ถูกยึด ทั้งบ้าน และฟาร์มเห็ด ก็ไม่เหลืออีกแล้วครอบครัวนายเหมือน ครอบครัวนายระเริง และอีกหลายบ้านที่ยอมเป็นหนี้เพื่อซื้อของวิเศษที่เกินความจำเป็น
ทั้งๆที่กว่าจะได้เงินมาต้องปลูกเห็ด ขายเห็ดจำนวนมาก ทำให้ ค ร อ บ ค รั ว เกิด ปั ญ ห า
เมื่อหลายๆครอบครัวมีปัญหา หมู่บ้านก็มีปัญหา และก็อ่อนแอลงเรื่อยๆหลังจากนั้นมาครอบครัวของนายเหมือนไม่มีสมบัติอะไรเหลืออยู่เลยต่างคนก็ทะเลาะกันจนครอบครัวแตกแยกนายเหมือนนางมั่นและหนูมี:พ่อจ้าแม่จ้าสมบัติของเราถูกยึดทั้งบ้านและฟาร์มเห็ดจะทำยังไงดี เป็นเพราะพ่อกับแม่นั้นแหละซื้ออะไรมาไม่เห็นจะวิเศษอะไรเลยฮือๆๆๆวันหนึ่งนายเหมือนได้บังเอิญเห็นครอบครัวของนายลีอยู่กันอย่างมีความสุขจึงเข้าไปถามนายลี:ครอบครัวของฉันกินอยู่อย่างพอเพียงไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นจากนั้นมานายเหมือนจึงไปปรึกษากับภรรยาว่านายเหมือน:ต่อนี้ไปครอบครัวของเราน่าจะอยู่อย่างพอเพียงไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นและรู้จักทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยนะพ่อครอบครัวเราจะได้มีความสุขเหมือนครอบครัวของนายลีต่อจากนี้ไปครอบครัวของนายเหมือนก็ดีขึ้นๆจนคนในหมู่บ้านนำครอบครัวของนายเหมือนเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตประจำวันของครอบครัวของตนต่อไป
คติสอนใจ:การรู้จักพอประมาณตนมีเหตุผลในการใช้ชีวิตก็จะดำเนินชีวิตของตนให้มีความสุขได้
อยู่อย่างพอเพียงหมายถึงคุณลักษณะที่แสดงออกถึง
การดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณมีเหตุผลรอบคอบ
มีคุณธรรม มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีและปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคม
ได้อย่างมีความสุข ผู้ที่มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง
จะดำเนินชีวิตอย่างประมาณตนมีเหตุผล รอบคอบ
ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรับผิดชอบ ไม่เบียด
เบียนผู้อื่น เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆมีการวางแผน
ป้องกันความเสี่ยงและพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง
ค่านิยม บัญญัติ12ประการ
ข้อที่10ไม่ขาดพอเพียง เลี้ยงชีพได้